ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ติดตั้งใน BMW i7 อาทิ หน้าจอ "Theatre Screen" ขนาด 31.3 นิ้วที่อยู่ด้านหลังซึ่งผู้โดยสารด้านหลังสามารถดูภาพยนตร์ เล่นวิดีโอเกม หรือควบคุมระบบต่าง ๆ ของรถผ่านหน้าจอสัมผัส การออกแบบที่หรูหราทั้งภายในและภายนอก ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง เช่น หนังแท้ ไม้จริง และโลหะ เบาะนั่งกว้างขวางและนุ่มสบายระบบปรับอากาศแบบ 4 โซน ระบบเสียง Bowers & Wilkins รวมถึงสมรรถนะจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้กำลังสูงสุด 564 แรงม้า ทำให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที และสามารถวิ่งได้ไกลถึง 600 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง รวมถึง BMW i7 ยังมีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 3 และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัยอื่น ๆ อีกมากมาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่ BMW i7 จะคว้ารางวัลมากมายในระดับสากลตั้งแต่เริ่มสายการผลิต อาทิ
- รางวัล Best Super Luxury All-Wheel-Drive Electric Cars จากเว็บไซต์ Edmunds
- รางวัล Top Gear Electric Award /2023 ประเภท Best Luxury EV รางวัลนี้ยกย่อง BMW i7 ในด้านการผสมผสานระหว่างความหรูหรา ความสะดวกสบายเทคโนโลยีและสมรรถนะของ i7 โดยจัดให้อยู่ในแถวหน้าของกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าสุดหรู
- รางวัล Luxury Car of the Year 2023 จาก Auto Express ที่คณะกรรมการประทับใจในความเงียบและความนุ่มนวลของระบบส่งกำลังไฟฟ้าล้วน และความประณีตที่ยอดเยี่ยม ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
- รางวัล The Chauffeur Car of the Year Awards 2023 จาก Professional Driver Magazine ประเทศอังกฤษ
- รางวัล Technology Award 2023 จากนิตยสาร What Car? ที่เทคะแนนให้กับนวัตกรรมระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลังที่มี "จอภาพยนตร์" ขนาดยักษ์
- รางวัล Best Luxury EV จาก AA Car Awards 2023 ประเทศนิวซีแลนด์ ที่ชนะใจในฐานะยานยนต์ระดับหรูที่ความเงียบและความประณีตผสมผสานกับความสะดวกสบาย i7 และห้องโดยสารสุดไฮเทคของรถ
- รางวัล The Best Of Luxury Electric Vehicle 2023 จาก Robb Report Thailand สำหรับมาตรฐานแห่งคุณภาพและความหรูหราเหนือระดับสำหรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในประเทศไทย ทั้งในด้าน Quality, Service, Innovation และ Exclusivity
